เว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วย Javascript คือเพื่อเพิ่มการโต้ตอบและปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม JavaScript ที่ใช้บนเว็บไซต์จำนวนมาก จะไม่ส่งผลต่อ การทำเว็บไซต์รองรับ SEO เลย หากคุณมีการติดตั้ง WordPress ใช้งานตามปกติ โดยไม่มีการปรับแต่งอะไรมาก ปัญหาน่าจะไม่เกิดขึ้นกับคุณ
คุณจะเจอปัญหา ก็ต่อเมื่อมีการใช้เปิด JavaScript เพื่อสร้างทั้งหน้าเว็บ เพิ่มหรือเอาองค์ประกอบออก หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่บนหน้าเว็บไซต์อยู่แล้ว บางเว็บไซต์ใช้สำหรับเมนู ดึงข้อมูลสินค้าหรือราคา ดึงเนื้อหาจากหลายแหล่ง หรือในบางกรณี ใช้สำหรับทุกอย่างบนเว็บไซต์ ถ้าฟังดูเหมือนเว็บไซต์ของคุณ ติดตามอ่านในบทความนี้ได้เลย
JavaScript คืออะไร
ภาษา JavaScript คือ ภาษาโปรแกรมหรือภาษาที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดภาษาหนึ่งในปัจจุบัน ถูกใช้สร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเว็บ ภาษา JavaScript นั้นมีคุณสมบัติที่หลากหลาย สามารถนำไปใช้งานได้ทั้งฝั่งหน้าบ้าน (Front-End) และฝั่งหลังบ้าน (Back-End)
JavaScript ส่งผลต่อ SEO ยังไง
JavaScript คือ ภาษาโปรแกรมที่ทรงพลัง ช่วยให้เว็บไซต์มีลูกเล่นและโต้ตอบได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน JavaScript ก็อาจส่งผลต่อ SEO ของเว็บไซต์ของคุณได้เช่นกัน
JavaScript SEO คือ กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ที่สร้างด้วย JavaScript เพื่อเพิ่มโอกาสให้ติดอันดับสูงในผลการค้นหา
SEO สำหรับเว็บไซต์ JavaScript เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ SEO ที่ช่วยให้เว็บไซต์ที่มี JavaScript หนักสามารถค้นหาและจัดทำดัชนีได้ง่าย รวมถึงเป็นมิตรกับการค้นหา เป้าหมายคือเพื่อให้เว็บไซต์เหล่านี้ถูกค้นพบและมีอันดับที่สูงขึ้นในเครื่องมือค้นหา
JavaScript ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายสำหรับ SEO มันแค่แตกต่างไปจากสิ่งที่ SEO หลายคนคุ้นเคย และมีความจำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติม
กระบวนการต่างๆ มีความคล้ายคลึงกับสิ่งที่ SEO เคยเห็นมาบ้างแล้ว แต่ก็อาจมีข้อแตกต่างเล็กน้อย คุณยังคงต้องดูที่โค้ด HTML เป็นหลัก ไม่ได้ดูที่ JavaScript จริงๆ
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ SEO บนหน้าเว็บไซต์แบบเดิมยังคงใช้ได้
คุณยังสามารถหาตัวเลือกปลั๊กอินที่คุ้นเคยเพื่อจัดการองค์ประกอบพื้นฐานของ SEO ได้อีกด้วย หากเฟรมเวิร์กที่คุณใช้ยังไม่มีอยู่ สำหรับเฟรมเวิร์ก JavaScript สิ่งเหล่านี้เรียกว่าโมดูล และคุณจะพบแพ็คเกจมากมายสำหรับติดตั้ง
มีโมดูลสำหรับเฟรมเวิร์กยอดนิยมมากมาย เช่น React, Vue, Angular และ Svelte ซึ่งคุณสามารถค้นหาได้โดยการค้นหาชื่อเฟรมเวิร์ก + ชื่อโมดูล ในบางแง่มุม JavaScript ดีกว่า HTML แบบดั้งเดิม เช่น การสร้างเว็บไซต์ได้ง่ายและประสิทธิภาพการทำงาน ในทางกลับกัน JavaScript ก็มีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถวิเคราะห์แบบแบ่งส่วน (เหมือนที่ HTML และ CSS ทำได้) และอาจส่งผลต่อการโหลดหน้าเว็บและประสิทธิภาพ โดยทั่วไป คุณอาจต้องแลกประสิทธิภาพกับฟังก์ชันการทำงาน
JavaScript ทําอะไรได้บ้าง?
การใช้ JavaScript เพื่อสร้างเว็บไซต์แบบไดนามิกมีข้อดีมากมาย แต่ก็อาจส่งผลต่อ SEO (Search Engine Optimization) ของคุณได้หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ต่อไปนี้เป็นปัญหา SEO ทั่วไปที่คุณอาจพบเจอเมื่อทำงานกับเว็บไซต์ที่ใช้ JavaScript พร้อมกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อช่วยให้มั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถมองเห็นได้โดยเครื่องมือค้นหา
ปัญหา SEO กับเว็บไซต์ที่ใช้ JavaScript และแนวทางปฏิบัติ
1. หัวข้อ (Title Tags) และ คำอธิบาย (Meta Descriptions) ที่ไม่ซ้ำกัน
- เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่แต่ละหน้าเว็บไซต์ของคุณจะมีหัวข้อและคำอธิบายที่ไม่ซ้ำกัน เนื่องจากเฟรมเวิร์ก JavaScript จำนวนมากมีเทมเพลต คุณอาจพบว่าหัวข้อหรือคำอธิบายเดียวกันถูกใช้สำหรับหน้าเว็บไซต์ทั้งหมดหรือกลุ่มหน้าเว็บไซต์
- ตรวจสอบรายงาน “รายการที่ซ้ำกัน” (Duplicates report) ในเครื่องมือ “การตรวจสอบเว็บไซต์” (Site Audit) ของ Ahrefs และคลิกที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาที่พบ
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด:
- สร้างหัวข้อและคำอธิบายที่ไม่ซ้ำกันและอธิบายเนื้อหาของแต่ละหน้าเว็บไซต์อย่างแม่นยำ
- รวมคีย์เวิร์ดเป้าหมายที่เกี่ยวขันไว้ในหัวข้อและคำอธิบาย
- ใช้เครื่องมือสร้างหัวข้อและคำอธิบายอัตโนมัติเพื่อช่วยคุณประหยัดเวลา แต่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำอธิบายเหล่านั้นมีความเป็นธรรมชาติและไม่ใช่การสแปม
2. เนื้อหาที่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดย Search Engine
- Search Engine อาจไม่สามารถเข้าถึงและจัดทำดัชนีเนื้อหาที่สร้างโดย JavaScript ได้ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าเนื้อหาสำคัญของคุณอาจมองไม่เห็นโดยผู้ใช้ค้นหา
- ปัญหานี้มักเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ที่ใช้การเรนเดอร์ฝั่งไคลเอ็นต์ (Client-Side Rendering) ซึ่งเนื้อหาจะถูกสร้างโดยเบราว์เซอร์ของผู้ใช้
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด:
- ใช้การเรนเดอร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (Server-Side Rendering) เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาของคุณสามารถมองเห็นได้โดย Search Engine
- หากคุณไม่สามารถใช้การเรนเดอร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ให้พิจารณาใช้เทคนิคการ Pre-rendering หรือการรวมเนื้อหาที่สำคัญไว้ในแท็ก <noscript>
3. ปัญหาการเชื่อมโยงภายใน (Internal Linking)
- การเชื่อมโยงภายในเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ SEO เนื่องจากช่วยให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ของคุณและค้นพบหน้าเว็บไซต์อื่นๆ
- JavaScript อาจรบกวนการเชื่อมโยงภายในโดยการสร้างลิงก์แบบไดนามิกที่ Search Engine อาจไม่สามารถติดตามได้
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด:
- ใช้ลิงก์ HTML ธรรมดาแทนการใช้ JavaScript สำหรับการเชื่อมโยงภายในที่สำคัญ
- หากคุณต้องใช้ JavaScript เพื่อสร้างลิงก์ ให้แน่ใจว่าลิงก์เหล่านั้นสามารถติดตามได้โดย Search Engine
4. รูปภาพที่ไม่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ
- รูปภาพเป็นองค์ประกอบสำคัญของเว็บไซต์หลายแห่ง แต่รูปภาพขนาดใหญ่ที่ไม่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสามารถทำให้เวลาในการโหลดหน้าเว็บไซต์ช้าลง
- เวลาในการโหลดหน้าเว็บไซต์ที่ช้าสามารถส่งผลต่อ SEO ของคุณได้
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด:
- บีบอัดรูปภาพของคุณเพื่อลดขนาดไฟล์
- ใช้ขนาดรูปภาพที่เหมาะสมสำหรับหน้าเว็บไซต์ของคุณ
- ใช้คุณสมบัติ loading ในแท็ก <img> เพื่อควบคุมการโหลดรูปภาพ
5. การบำรุงรักษาโค้ดอย่างสม่ำเสมอ
- โค้ด JavaScript ที่ล้าสมัยหรือบั๊กอาจส่งผลต่อ SEO ของคุณได้
- เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องบำรุงรักษาโค้ด JavaScript
ประโยชน์ของ JavaScript
1. เพิ่มการโต้ตอบให้กับเว็บไซต์
JavaScript ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเว็บไซต์แบบไดนามิกและโต้ตอบได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น JavaScript สามารถใช้เพื่อสร้างเมนูแบบดึงลง เล่นภาพยนตร์ และสร้างเกมบนเว็บ
2. พัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่ซับซ้อน
JavaScript สามารถใช้เพื่อพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่ซับซ้อน เช่น Gmail และ Facebook เฟรมเวิร์ก JavaScript ยอดนิยม เช่น React, Angular และ Vue.js ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเว็บแอปพลิเคชันที่ปรับขนาดได้และดูแลรักษาง่าย
3. พัฒนาเกมบนเว็บ
JavaScript เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมสำหรับการพัฒนาเกมบนเว็บ เอนจินเกม JavaScript เช่น Phaser และ Pixi.js ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเกม 2D และ 3D ที่ซับซ้อน
4. พัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ
JavaScript สามารถใช้เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือไฮบริดโดยใช้เฟรมเวิร์กเช่น React Native และ NativeScript แอปพลิเคชันมือถือไฮบริดเขียนด้วย JavaScript เพียงครั้งเดียวและสามารถรันบนแพลตฟอร์มมือถือหลายตัว
5. พัฒนาแอปพลิเคชันเดสก์ท็อป
JavaScript สามารถใช้เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันเดสก์ท็อปโดยใช้เฟรมเวิร์กเช่น Electron เฟรมเวิร์กเหล่านี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันเดสก์ท็อปด้วย JavaScript, HTML และ CSS
6. ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์
JavaScript สามารถใช้เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์โดยใช้ Node.js Node.js เป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเขียนแอปพลิเคชัน JavaScript บนเซิร์ฟเวอร์
7. เข้าถึง API ของเบราว์เซอร์
JavaScript ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึง API ของเบราว์เซอร์ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถควบคุมฟังก์ชันการทำงานของเบราว์เซอร์ เช่น การจัดการ DOM การจัดการประวัติ และการจัดการคุกกี้
แนะนำ 5 โปรแกรมสำหรับการเขียน JavaScript
- Visual Studio Code
เป็นโปรแกรมแก้ไขข้อความโอเพ่นซอร์สฟรีจาก Microsoft ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รองรับภาษาต่างๆ มากมาย รวมถึง JavaScript มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน เช่น การเน้นไวยากรณ์ โค้ดคอมพลีท การดีบัก และส่วนขยายต่างๆ มากมายที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้
- Sublime Text
โปรแกรมแก้ไขข้อความที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รองรับภาษาต่างๆ มากมาย รวมถึง JavaScript มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน เช่น การเน้นไวยากรณ์ โค้ดคอมพลีท การค้นหา และแมโคร
- WebStorm
โปรแกรม IDE จาก JetBrains ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการพัฒนาเว็บ รองรับ JavaScript, HTML, CSS และภาษาอื่นๆ อีกมากมาย มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน เช่น การเน้นไวยากรณ์ โค้ดคอมพลีท การรีแฟคเตอร์ การดีบัก และเครื่องมือสำหรับการพัฒนาเว็บอื่นๆ อีกมากมาย
- Atom
Atom คือ โปรแกรมแก้ไขข้อความโอเพ่นซอร์สฟรีอีกตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยม รองรับภาษาต่างๆ มากมาย รวมถึง JavaScript มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน เช่น การเน้นไวยากรณ์ โค้ดคอมพลีท การค้นหา และแพ็คเกจต่างๆ มากมายที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้
- Brackets
Brackets เป็นโปรแกรมแก้ไขข้อความโอเพ่นซอร์สฟรีจาก Adobe ที่ออกแบบมาสำหรับนักพัฒนาเว็บโดยเฉพาะ รองรับ HTML, CSS, JavaScript และภาษาอื่นๆ อีกมากมาย มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน เช่น การเน้นไวยากรณ์ โค้ดคอมพลีท การรีแฟคเตอร์ และเครื่องมือสำหรับการพัฒนาเว็บอื่นๆ อีกมากมาย
Brackets software
JavaScript โดดเด่นอย่างไร? ทำไมถึงเป็นภาษายอดนิยมในกลุ่ม IT
1. ความหลากหลาย
- ใช้งานได้หลากหลาย: JavaScript นั้นใช้งานได้หลากหลายทั้ง ฝั่งหน้าเว็บ (Front-end) และ ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (Back-end)
- ฝั่งหน้าเว็บ: JavaScript ใช้สร้างเว็บไซต์ที่โต้ตอบได้ เพิ่มลูกเล่น ความสวยงาม และฟังก์ชันการทำงานต่างๆ เช่น เมนูแบบดึงลง แอนิเมชัน เกมส์ เว็บแอปพลิเคชัน ฯลฯ
- ฝั่งเซิร์ฟเวอร์: JavaScript ร่วมกับ Node.js พัฒนาเป็น Node.js ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ API และเว็บเซอร์วิส
- รองรับไลบรารีและเฟรมเวิร์กมากมาย: JavaScript มีไลบรารีและเฟรมเวิร์กสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้รวดเร็วและสะดวก เช่น React, Angular, Vue.js, jQuery ฯลฯ
2. เรียนรู้และใช้งานง่าย
- ไวยากรณ์คล้ายคลึงกับภาษาธรรมชาติ: JavaScript มีไวยากรณ์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย อ่านเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- มีแหล่งข้อมูลและชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่: มีเว็บไซต์ บทความ วิดีโอ และฟอรัมมากมาย ที่สอนวิธีการเขียนและใช้งาน JavaScript
- มีเครื่องมือสำหรับพัฒนาที่หลากหลาย: มี IDE และ Code Editor มากมายที่รองรับ JavaScript ช่วยให้นักพัฒนาเขียนโค้ดได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ
3. ประสิทธิภาพ
- ทำงานได้รวดเร็ว: JavaScript มีเครื่องมือแปลโค้ด (JavaScript Engine) ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้โค้ด JavaScript ทำงานได้รวดเร็ว
- รองรับการพัฒนาแบบ Single-Page Application (SPA): JavaScript เหมาะสำหรับการพัฒนา SPA ซึ่งเป็นเว็บแอปพลิเคชันที่โหลดหน้าเว็บเพียงครั้งเดียว ผู้ใช้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องโหลดหน้าเว็บใหม่ ทำให้ใช้งานได้รวดเร็วและลื่นไหล
4. พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมสูง: JavaScript เป็นภาษาที่นักพัฒนาเว็บนิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน และยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง
- มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง: ภาษา JavaScript มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอ รองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ แมชชีนเลิร์นนิง ฯลฯ
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ JavaScript จึงกลายเป็นภาษายอดนิยมในกลุ่ม IT เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ เว็บแอปพลิเคชัน หรือบริการบนเว็บ
พร้อมที่จะปลดล็อกศักยภาพของเว็บไซต์คุณแล้วหรือยัง?
SEOMON เรามีบริการรับทำ SEO ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ดึงดูดผู้เข้าชมที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ
คำถามที่พบบ่อย
JavaScript มีไว้ทำอะไร
– สร้างเว็บไซต์แบบโต้ตอบ: JavaScript ช่วยให้คุณสร้างปุ่ม เมนูแบบเลื่อนลง แอนิเมชั่น และเอฟเฟกต์ต่างๆ บนเว็บไซต์ของคุณ ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีชีวิตชีวาและน่าสนใจมากขึ้น
– พัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ: JavaScript สามารถใช้พัฒนาแอปพลิเคชันมือถือแบบไฮบริด ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีเว็บกับเทคโนโลยีดั้งเดิมของแพลตฟอร์มมือถือ
– สร้างเกม: JavaScript เหมาะสำหรับการสร้างเกมง่ายๆ บนเว็บ ไปจนถึงเกมที่ซับซ้อนบนมือถือ
– พัฒนาโปรแกรมเดสก์ท็อป: JavaScript สามารถใช้พัฒนาโปรแกรมเดสก์ท็อปด้วย Node.js ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้ JavaScript ทำงานบนคอมพิวเตอร์ได้
JavaScript มีข้อดีหรือมีประโยชน์อย่างไร
JavaScript ภาษาโปรแกรมยอดนิยมที่ใช้สร้างเว็บไซต์แบบโต้ตอบ ช่วยให้เว็บไซต์มีชีวิตชีวา น่าสนใจ ดึงดูดผู้ใช้งาน เพิ่มยอดขาย ยังสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ เกม โปรแกรมเดสก์ท็อป และอื่นๆ อีกมากมาย
ข้อดีของ JavaScript คือ เรียนรู้ง่าย มีแหล่งข้อมูลมากมาย ชุมชนออนไลน์คอยช่วยเหลือ ใช้งานได้หลากหลาย และเป็นภาษาที่ทรงพลัง เหมาะกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกระดับ
JavaScript ทำงานแบบไหน
การทำงานของ JavaScript นั้น แบ่งได้เป็น 2 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:
1. การแปลโค้ด เมื่อเราเขียนโค้ด JavaScript โค้ดเหล่านั้นจะถูกแปลเป็นภาษาที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ
2. การรันโค้ด เมื่อโค้ด JavaScript ถูกแปลเป็นภาษาเครื่องแล้ว JavaScript Engine ซึ่งเป็นโปรแกรมที่รันโค้ด JavaScript จะทำการรันโค้ดตามคำสั่ง JavaScript Engine มีอยู่ในเว็บเบราว์เซอร์ แอปพลิเคชัน Node.js และสภาพแวดล้อมอื่นๆ ที่รองรับ JavaScript
JavaScript คืออะไร
JavaScript คือ ภาษาโปรแกรมหรือภาษาที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดภาษาหนึ่งในปัจจุบัน ถูกใช้สร้างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเว็บ ภาษา JavaScript นั้นมีคุณสมบัติที่หลากหลาย สามารถนำไปใช้งานได้ทั้งฝั่งหน้าบ้าน (Front-End) และฝั่งหลังบ้าน (Back-End)