Researching Keyword เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจทุกประเภท Keyword Research คือ เข็มทิศนำทาง ขณะที่ล้มลุกคลุกคลานในเขาวงกต แต่ละก้าวที่ก้าวเดินล้วนสำคัญ การทำ SEO Keyword Research อย่างชาญฉลาด จะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ค้นพบโอกาสใหม่ ๆ และนำทางคุณไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริง
Keyword แบ่งได้กี่ประเภท
Keyword Research คือ การค้นหาและวิเคราะห์ keyword คำหรือวลีที่ผู้คนใช้ค้นหาข้อมูล สินค้า บริการ และคอนเทนต์บนเว็บไซต์ ก็เหมือนกับการสำรวจความต้องการของตลาด เพื่อให้เราสร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ค้นหา และดึงดูด traffic เข้าเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น คนที่ทำ SEO (Search Engine Optimization) มักจะนิยมใช้ Keyword Research เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับต้นๆ ในหน้าค้นหาของ Google
Researching Keyword คือกระบวนการค้นหาคำหรือวลีที่ผู้คนใช้ค้นหาข้อมูล สินค้า บริการ และคอนเทนต์บนเครื่องมือค้นหา (Search Engine) เช่น Google, Bing, Youtube โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาวิเคราะห์ เปรียบเทียบ จัดลำดับความสำคัญ เพื่อเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์
Keyword แบ่งได้กี่ประเภท ขึ้นอยู่กับวิธีการแบ่ง แต่โดยทั่วไปแล้ว นิยมแบ่ง Keyword ออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
Keyword แบบกว้าง (Widely/Mass Keyword)
เป็นคำค้นหาที่กว้างๆ ไม่เจาะจง มักมีจำนวนการค้นหาสูง แต่การแข่งขันก็สูงเช่นกัน ตัวอย่างเช่น “รองเท้า” “เสื้อผ้า” “มือถือ”
Keyword เฉพาะกลุ่ม (Niche Keyword)
เป็นคำค้นหาที่เจาะจงลงมา มักมีจำนวนการค้นหาน้อยกว่า Keyword แบบกว้าง แต่การแข่งขันก็ต่ำลง เช่น “รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง” “เสื้อยืดสีขาวแขนยาว” “มือถือรุ่นล่าสุด”
Keyword แบบยาว (Long-tail Keyword)
เป็นคำค้นหาที่ยาว เจาะจง มักมีจำนวนการค้นหาต่ำ แต่การแข่งขันก็ต่ำที่สุด เช่น “รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิงไซส์ 38” “เสื้อยืดสีขาวแขนยาว ผ้าคอตตอน” “มือถือรุ่นล่าสุด ราคาไม่เกิน 10,000 บาท”
ลักษณะที่ดีของ Keyword เป็นยังไง
1. ความเกี่ยวข้อง
Keyword ควรมีความเกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือเนื้อหาที่นำเสนอ ผู้ใช้ที่ค้นหาด้วย Keyword นั้น ควรคาดหวังที่จะพบสิ่งที่นำเสนอ
2. ความเฉพาะเจาะจง
Keyword ที่เฉพาะเจาะจง มักจะมีการแข่งขันน้อยกว่า Keyword ทั่วไป แต่จะดึงดูดผู้ใช้ที่มีความสนใจในสินค้า บริการ หรือเนื้อหามากกว่า
3. ปริมาณการค้นหา
Keyword ที่มีปริมาณการค้นหาสูง หมายความว่า มีผู้ใช้จำนวนมากค้นหาด้วย Keyword นั้น แต่ Keyword เหล่านี้ มักจะมีการแข่งขันสูง
4. ความยากในการจัดอันดับ
ความยากในการจัดอันดับ บ่งบอกถึงระดับความยากง่ายในการดันเว็บไซต์ขึ้นสู่หน้าแรกของผลการค้นหาด้วย Keyword นั้น
5. เจตนาการค้นหา
พิจารณาว่า ผู้ใช้ที่ค้นหาด้วย Keyword นั้น มีเจตนาอะไร ต้องการหาข้อมูล ซื้อสินค้า หรือ เปรียบเทียบราคา
6. คู่แข่ง
วิเคราะห์คู่แข่งว่าพวกเขาใช้ Keyword อะไร นั้นหมายถึง Keyword นั้นๆถูกค้นหาจริงจากลูกค้า
วิธีหา Keyword คุณภาพ ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
1. เลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
- เริ่มต้นด้วยการระบุกลุ่ม Keyword หลักที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ
- ตัวอย่างเช่น สมมติว่า คุณมีธุรกิจรับสร้างเว็บไซต์ Keyword หลักของอาจจะเป็น “รับสร้างเว็บไซต์” “ออกแบบเว็บไซต์” “เว็บไซต์ราคาถูก” ฯลฯ
- brainstorming หา Keyword เพิ่มเติมโดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Google Keyword Planner, Ubersuggest, Ahrefs
2. วิเคราะห์ปริมาณการค้นหา
- เลือก Keyword ที่มีปริมาณการค้นหา (Search Volume) สูงพอสมควร
- อย่างไรก็ตาม หลีกเลี่ยง Keyword ที่กว้างเกินไป เพราะ Keyword เหล่านี้มักจะมีการแข่งขันสูง
3. ประเมินความยากง่ายของ Keyword
- วิเคราะห์ว่า Keyword นั้นๆ แข่งขันยากง่ายแค่ไหน
- Keyword ที่ดีควรมี Keyword Difficulty (KD) อยู่ในระดับปานกลาง
- เครื่องมือต่างๆ เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs สามารถช่วยวิเคราะห์ KD ของ Keyword ได้
4. พิจารณา User Intent
- User Intent หมายถึง วัตถุประสงค์ของผู้ใช้ที่ค้นหา Keyword นั้นๆ
- ต้องเลือก Keyword ที่ตรงกับ User Intent ของกลุ่มเป้าหมาย
- ตัวอย่างเช่น สมมติว่า User ค้นหา “วิธีทำ SEO” แสดงว่า User ต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทำ SEO จึงควรเลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับการสอนทำ SEO เช่น “บทเรียน SEO” “เทคนิค SEO”
5. เลือกใช้ Keyword หลากหลายประเภท
- อย่าพึ่งพา Keyword หลักเพียงอย่างเดียว
- ควรเลือกใช้ Keyword ประเภทอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น Long-tail Keyword, LSI Keyword
- Keyword เหล่านี้มักจะมีการแข่งขันน้อยกว่า Keyword หลัก
- แต่ก็สามารถดึงดูด Traffic ที่มีคุณภาพได้
วิธีหา Keyword เพื่อทำ SEO
การหา Keyword ที่ดี เปรียบเสมือนการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับกลยุทธ์ SEO Keyword ที่เหมาะสมจะช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ นำ traffic เข้าสู่เว็บไซต์และช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรกของ Google มีหลายวิธีในการหา Keyword ที่ดี ดังนี้
1. วิเคราะห์คู่แข่ง
ตรวจสอบเว็บไซต์ของคู่แข่ง ดูว่าพวกเขาใช้ Keyword อะไรบ้าง วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของ Keyword เหล่านั้น และหาโอกาสที่จะใช้ Keyword ที่ดีกว่า
2. ใช้เครื่องมือ Keyword Research
ใช้เครื่องมือจาก เว็บหา keyword ฟรี มีทั้งเครื่องมือ Free Keyword Research Tool และเสียเงินมากมายที่สามารถช่วยหา Keyword ที่ดี ตัวอย่างเครื่องมือยอดนิยม เช่น Google Keyword Planner, SEMrush, Ahrefs
3. วิเคราะห์เจตนาการค้นหา
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าผู้ใช้ค้นหาอะไร เมื่อพวกเขาค้นหา Keyword เฉพาะ วิเคราะห์ว่าพวกเขากำลังมองหาข้อมูล เปรียบเทียบสินค้า หรือต้องการซื้อ
4. เลือก Keyword ที่เหมาะสม
เมื่อมีรายการ Keyword ที่ดีแล้ว ให้เลือก Keyword ที่เหมาะกับเว็บไซต์พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณการค้นหา ระดับความยาก และความเกี่ยวข้อง
5. ติดตามผลลัพธ์
สิ่งสำคัญคือต้องติดตามผลลัพธ์ของ Keyword ที่เลือก วิเคราะห์ว่า Keyword ใดมีประสิทธิภาพและ Keyword ใดที่ต้องปรับปรุง
ลำดับความสำคัญคีย์เวิร์ดในการทำ SEO
ลำดับความสำคัญของคีย์เวิร์ดในการทำ SEO นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทของธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย และกลยุทธ์ SEO โดยรวม อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว คีย์เวิร์ดสามารถจัดลำดับความสำคัญได้ดังนี้
1. Primary Keyword
คีย์เวิร์ดหลักคือคำหรือวลีที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ควรมีปริมาณการค้นหาสูง และมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ดหลักควรใช้ในส่วนสำคัญๆ ของเว็บไซต์ เช่น ในชื่อเว็บไซต์ รายละเอียดเมตา และหัวข้อบทความ
2. Secondary Keyword
คีย์เวิร์ดรองคือคำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ แต่มีความเฉพาะเจาะจงน้อยกว่าคีย์เวิร์ดหลัก คีย์เวิร์ดรองควรมีปริมาณการค้นหาปานกลาง และมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์
3. Longtail Target Keyword
คีย์เวิร์ดหางยาวคือวลีที่มีความยาว 3 คำหรือมากกว่า มักมีความเฉพาะเจาะจงสูง และมีการแข่งขันน้อยกว่าคีย์เวิร์ดหลักและคีย์เวิร์ดรอง คีย์เวิร์ดหางยาวเหมาะสำหรับการดึงดูดผู้ใช้ที่มีเจตนาค้นหาสูง
4. คีย์เวิร์ดแฝง
คีย์เวิร์ดแฝงคือคำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ แต่ไม่ได้ใช้โดยผู้ใช้โดยตรง คีย์เวิร์ดแฝงช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาเว็บไซต์ได้ดีขึ้น
Researching Keyword เลือกใช้ Keyword ยังไงให้เหมาะกับธุรกิจ และเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์
การเลือก Keyword ที่ดี เปรียบเสมือนการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับกลยุทธ์ SEO Keyword ที่ดีจะช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ เข้ามาที่เว็บไซต์ เพิ่มโอกาสในการแปลง และขับเคลื่อนยอดขายให้กับธุรกิจ 3 ปัจจัยหลัก ในการเลือก Keyword ที่ดี
ความเกี่ยวข้อง
Keyword ควรมีความเกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือเนื้อหาบนเว็บไซต์ เลือกใช้ Keyword ที่ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหา สามารถใช้ Keyword Research Tools ในการเลือก Keyword ได้
ปริมาณการค้นหา
Keyword ควรมีปริมาณการค้นหาที่เหมาะสม Keyword ที่มีคนค้นหามาก แต่การแข่งขันสูง อาจจะไม่เหมาะกับเว็บไซต์ใหม่ ควรเลือก Keyword ที่มีปริมาณการค้นหาปานกลาง แต่มีโอกาสที่จะติดอันดับได้ดีกว่า
ความยากง่ายในการแข่งขัน
Keyword ควรมีความยากง่ายในการแข่งขันที่เหมาะสม Keyword ที่แข่งขันง่าย อาจจะมีปริมาณการค้นหาที่น้อย แต่ Keyword ที่แข่งขันยาก อาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการติดอันดับ
ปลดล็อกศักยภาพของเว็บไซต์ด้วย Keyword Research ที่ SEOMON เราใช้ Keyword Tool ในการเลือก Keyword ซึ่งจะให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพ ช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ นำพา Traffic มหาศาลเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณ และผลักดันให้เว็บไซต์ของคุณพุ่งทะยานสู่อันดับต้นๆ บนหน้าผลการค้นหา
ดันอันดับเว็บไซต์ของคุณให้พุ่งทะยานด้วยบริการ SEO ที่ครบวงจรกับ SEOMON !
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ Researching Keyword
Keyword Research ทำยังไง
ขั้นตอนการทำ Keyword Research
1. กำหนดเป้าหมาย: ต้องการบรรลุอะไรจาก SEO
2. ระดมความคิด: คิดรายการคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
3. ใช้เครื่องมือ Keyword Research: เครื่องมือเหล่านี้ช่วยวิเคราะห์ปริมาณการค้นหา และความยากง่ายของ Keyword
4. วิเคราะห์ Keyword: เลือก Keyword ที่ตรงกับเป้าหมาย
5. ติดตามผล: วัดผลประสิทธิภาพของ Keyword และปรับกลยุทธ์
Keyword มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ประเภทของ Keyword ตามลำดับความสำคัญ มีดังนี้
1. Keyword แบบกว้าง (Widely/Mass Keyword) เป็นคำค้นหาที่กว้างๆ ไม่เจาะจง มักมีจำนวนการค้นหาสูง แต่การแข่งขันก็สูงเช่นกัน เช่น “รองเท้า” “เสื้อผ้า” “มือถือ”
2. Keyword เฉพาะกลุ่ม (Niche Keyword) เป็นคำค้นหาที่เจาะจงลงมา มักมีจำนวนการค้นหาน้อยกว่า Keyword แบบกว้าง แต่การแข่งขันก็ต่ำลง เช่น “รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง” “เสื้อยืดสีขาวแขนยาว”
3. Keyword แบบยาว (Long-tail Keyword) เป็นคำค้นหาที่ยาว เจาะจง มักมีจำนวนการค้นหาต่ำ แต่การแข่งขันก็ต่ำที่สุด เช่น “รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิงไซส์ 38” “เสื้อยืดสีขาวแขนยาว ผ้าคอตตอน”
Keyword Research คืออะไร
Keyword Research คือ กระบวนการค้นหาและวิเคราะห์คำค้นหาที่ผู้คนใช้บนอินเทอร์เน็ต เปรียบเสมือนการไขรหัสความต้องการของผู้ใช้ เพื่อให้เราสามารถสร้างเนื้อหาที่ตรงกับสิ่งที่พวกเขาค้นหา ช่วยให้รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณกำลังค้นหาอะไร คิดอะไร อยู่ เพื่อเขียนเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลทำให้เนื้อหามีโอกาสปรากฏบนหน้าแรกของ Google มากขึ้น
Widely keyword คืออะไร พร้อมยกตัวอย่าง
Widely Keyword หรือ Keyword กว้างๆ คือ คำค้นหาที่ผู้ใช้พิมพ์เพื่อค้นหาข้อมูลทั่วไป เกี่ยวกับหัวข้อหรือสินค้าบางอย่าง โดยไม่เจาะจงลงไปที่รายละเอียด ยกตัวอย่างเช่น Widely Keyword รองเท้า เสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ ร้านอาหารที่พัก