การมีเว็บไซต์เปรียบเสมือนการมีหน้าร้านออนไลน์ SEO (Search Engine Optimization) จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหาบน Google ดึงดูดผู้เข้าชม และสร้างโอกาสทางธุรกิจ บทความนี้รวบรวมทั้งเทคนิค SEO และเครื่องมือทำ SEO ที่สำคัญ โดยเราจะอธิบายตั้งแต่หลักการทำ SEO และองค์ประกอบสำคัญของ SEO เทคนิคการทำ SEO ที่ Startup ต้องรู้เพื่อ Save Cost รวมถึงวิธีเช็คอันดับ SEO ผ่านการใช้ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการทำ SEO
หลักการทำ SEO และองค์ประกอบสำคัญของ SEO
การทำ SEO มีเป้าหมายเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหาบน Google ดึงดูดผู้เข้าชม และสร้างโอกาสทางธุรกิจ หลักการสำคัญของ SEO ประกอบด้วย 6 ส่วนสำคัญ ดังนี้
1. เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นใคร พวกเขาค้นหาอะไร และมีความต้องการอะไร พัฒนาเนื้อหา โครงสร้างเว็บไซต์ และกลยุทธ์ SEO ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
2. ค้นหา Keyword เลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเว็บไซต์ กลุ่มเป้าหมาย และมีการค้นหาบ่อย วิเคราะห์ Volume และ Competition ของ Keyword เพื่อเลือก Keyword ที่เหมาะสม
3. สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ เขียนเนื้อหาที่ informative น่าสนใจ และตรงประเด็น เน้นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายใส่ Keyword แต่ไม่ควรใส่ Keyword มากเกินไป
4. ปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ ออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวก ใช้ Sitemap ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ ปรับแต่ง URL ให้สั้น กระชับ และดีต่อ SEO
5. สร้าง Backlink หาวิธีสร้าง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ Backlink ช่วยเพิ่ม Authority และ Credibility ของเว็บไซต์
6. วิเคราะห์และติดตามผล ใช้เครื่องมือ SEO วิเคราะห์ผลลัพธ์ ติดตามอันดับเว็บไซต์ และประสิทธิภาพของกลยุทธ์ SEO ปรับแต่งกลยุทธ์ SEO อย่างต่อเนื่อง ให้เหมาะสมกับอัลกอริทึมของ Google และพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้
องค์ประกอบสำคัญของ SEO
SEO ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบหลัก
1. On-Page SEO เป็นการปรับแต่งเนื้อหา โครงสร้างเว็บไซต์ และองค์ประกอบต่างๆ บนหน้าเว็บ
ตัวอย่าง On-Page SEO
- เขียน Title Tag และ Meta Description ที่ดึงดูด
- ใส่ Heading Tags (H1, H2, H3)
- Optimize รูปภาพ โดยใส่ Alt Text
- เขียนเนื้อหาที่อ่านง่าย แบ่งย่อหน้าชัดเจน
- ใส่ Keyword อย่างเหมาะสม
- ใช้ Internal Link เชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์
2. Off-Page SEO เป็นการสร้าง Backlink เพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์จากแหล่งอื่น และสร้าง Authority
ตัวอย่าง Off-Page SEO
- เขียน Guest Post บนเว็บไซต์อื่น
- แชร์เนื้อหาบน Social Media
- เข้าร่วม Community ออนไลน์
- สร้าง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ
หลักการเขียน SEO
การเขียน SEO มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเนื้อหาที่ informative ดึงดูดและตรงประเด็นหลักการเขียน SEO มีส่วนประกอบดังนี้
- เขียนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ใส่ Keyword อย่างเหมาะสม กระจาย Keyword ทั่วทั้งเนื้อหา แต่ไม่ควรใส่ Keyword มากเกินไป
- เขียนเนื้อหาที่อ่านง่าย ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย แบ่งย่อหน้าชัดเจน ใช้ Heading Tags
- เขียนเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจ และมีประโยชน์
- เขียนเนื้อหาให้น่าสนใจ ดึงดูดผู้อ่านด้วยหัวข้อที่น่าสนใจ ใช้รูปภาพ วิดีโอ หรือ Infographic
- เขียนเนื้อหาที่ Original ไม่ลอกเลียนแบบเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่น
- เขียนเนื้อหาให้อัปเดตอยู่เสมอ เพิ่มเนื้อหาใหม่ หรืออัปเดตเนื้อหาเก่า อยู่เสมอ
หา Long Tail Keywords ได้ที่ไหน
Long Tail Keywords เป็น Keyword ที่มีความยาวและเจาะจง มักมีการค้นหาน้อยกว่า Keyword ทั่วไป แต่มี Competition น้อยกว่าและโอกาสที่จะติดอันดับบนหน้าแรกของ Google นั้นง่ายกว่า
แหล่งหา Long Tail Keywords
- Google Suggest พิมพ์ Keyword หลักลงใน Google Search จากนั้นดู Keyword ที่ Google แนะนำ
- เครื่องมือทำ SEO Keyword Research มีเครื่องมือ Keyword Research มากมาย ที่ช่วยค้นหา Long Tail Keywords เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs, SEMrush
- เว็บไซต์คู่แข่ง วิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่ง ดูว่าพวกเขาใช้ Long Tail Keywords อะไร
- ฟอรัม และ Community ออนไลน์ เข้าร่วมฟอรัม และ Community ออนไลน์ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ ดูว่าพวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับอะไร และใช้ Keyword อะไร
- Social Media วิเคราะห์แฮชแท็ก และ Keyword ที่ใช้บน Social Media ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
Startup ต้องรู้! เทคนิคการทำ SEO ที่ Save Cost
ในฐานะ Startup การทำ SEO ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญ ช่วยดึงดูด Traffic เพิ่มยอดขาย และสร้างการเติบโตทางธุรกิจ แต่การจ้าง SEO Agency นั้นมีค่าใช้จ่ายสูง บทความนี้จึงนำเสนอเทคนิคการทำ SEO ที่ Startup สามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเสียค่าใช้จ่ายน้อย
เทคนิค SEO ใส่ keyword ให้ search เจอ
1. ค้นหา keyword ที่ใช่ วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย เข้าใจว่าพวกเขาค้นหาอะไร และมีความต้องการอะไร ใช้เครื่องมือ Keyword Research ฟรี เช่น Google Keyword Planner, Ubersuggest เลือก keyword ที่มี Volume และ Competition เหมาะสม
2. เขียนเนื้อหาที่ตรงประเด็น เขียนเนื้อหาที่ informative น่าสนใจ และตรงประเด็น เน้นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ใส่ keyword อย่างเหมาะสม กระจาย keyword ทั่วทั้งเนื้อหา แต่ไม่ควรใส่ keyword มากเกินไป
3. ปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ ออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวก ใช้ Sitemap ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ ปรับแต่ง URL ให้สั้น กระชับ และดีต่อ SEO
4. สร้าง Backlink คุณภาพ เขียน Guest Post บนเว็บไซต์อื่น แชร์เนื้อหาบน Social Media เข้าร่วม Community ออนไลน์ สร้าง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ
5. วิเคราะห์และติดตามผล ใช้เครื่องมือ SEO วิเคราะห์ผลลัพธ์ ติดตามอันดับเว็บไซต์ และประสิทธิภาพของกลยุทธ์ SEO ปรับแต่งกลยุทธ์ SEO อย่างต่อเนื่อง ให้เหมาะสมกับอัลกอริทึมของ Google และพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้
เทคนิค SEO เพิ่มเติม
- Optimize รูปภาพ ใส่ Alt Text ที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพ
- ใช้ Schema Markup ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น
- สร้าง Internal Link เชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์
- เพิ่มความเร็วเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่โหลดเร็ว มีผลดีต่อ SEO
- ปรับแต่งเว็บไซต์ให้รองรับ Mobile ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักค้นหาข้อมูลผ่าน Mobile
วิธีเช็คอันดับ SEO ผ่านการใช้ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการทำ SEO
การเช็คอันดับ SEO เป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้คุณติดตามผลลัพธ์ของกลยุทธ์ SEO วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และปรับแต่งกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพ บทความนี้แนะนำวิธีการเช็คอันดับ SEO ผ่าน 2 เครื่องมือที่นิยมใช้ คือ Google Search Console และ Keyword Ranking Tool
- การใช้ Google Search Console
Google Search Console เป็นเครื่องมือ SEO ฟรี จาก Google ช่วยให้คุณตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์ใน Google Search
วิธีการเช็คอันดับ SEO ผ่าน Google Search Console
- เข้าสู่ระบบ Google Search Console
- เลือกเว็บไซต์ที่ต้องการตรวจสอบ
- ไปที่เมนู “Search Results”
- เลือก “Position”
- เลือกช่วงเวลาที่ต้องการตรวจสอบ
- ดูอันดับเว็บไซต์ของคุณสำหรับ Keyword ต่างๆ
ข้อดีของการใช้ Google Search Console
ฟรี ใช้งานง่าย แสดงข้อมูลอันดับ SEO ที่แม่นยำ และแสดงข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น Impression, Clicks และ CTR
ข้อเสียของการใช้ Google Search Console
แสดงข้อมูลอันดับ SEO สำหรับ Keyword ที่ Google รวบรวมไว้เท่านั้น ไม่แสดงข้อมูลอันดับ SEO สำหรับ Keyword ทั้งหมด
- การใช้ Keyword Ranking Tool
Keyword Ranking Tool เป็นเครื่องมือ SEO ที่ช่วยให้คุณเช็คอันดับ SEO สำหรับ Keyword ต่าง ๆ ตัวอย่าง Keyword Ranking Tool เช่น SEMrush Ahrefs SERPWatcher
วิธีการเช็คอันดับ SEO ผ่าน Keyword Ranking Tool
- สมัครสมาชิก Keyword Ranking Tool
- เลือกเว็บไซต์ที่ต้องการตรวจสอบ
- ใส่ Keyword ที่ต้องการตรวจสอบ
- ดูอันดับเว็บไซต์ของคุณสำหรับ Keyword ที่เลือก
ข้อดีของการใช้ Keyword Ranking Tool:
แสดงข้อมูลอันดับ SEO สำหรับ Keyword ทั้งหมด แสดงข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น Volume, Competition และ CPC สามารถเปรียบเทียบอันดับ SEO กับเว็บไซต์คู่แข่ง
ข้อเสียของการใช้ Keyword Ranking Tool
ส่วนใหญ่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อาจแสดงข้อมูลอันดับ SEO ที่ไม่แม่นยำเสมอไป
ดังนั้นเลือกปรึกษาเรา SEOMON เพื่อให้งาน SEO ของคุณได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ เทคนิค SEO
SEO มีกี่ขั้นตอน
จำนวนขั้นตอนของ SEO นั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการและความซับซ้อนของกลยุทธ์ SEO โดยทั่วไปแล้ว SEO สามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:
1. การวิเคราะห์
วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย เข้าใจว่าพวกเขาค้นหาอะไร และมีความต้องการอะไร วิเคราะห์คู่แข่ง ดูว่าคู่แข่งของคุณทำ SEO อย่างไร และวิเคราะห์เว็บไซต์ของคุณ หาจุดแข็ง จุดอ่อน และโอกาสในการปรับปรุง
2. การ Optimize
Optimize เนื้อหาเว็บไซต์ ใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้อง เขียนเนื้อหาที่ informative และน่าสนใจ Optimize โครงสร้างเว็บไซต์ ทำให้เว็บไซต์ใช้งานง่าย และผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวก Optimize ความเร็วเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่โหลดเร็ว มีผลดีต่อ SEO สร้าง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ
3. การติดตามผล
ติดตามอันดับเว็บไซต์ วิเคราะห์ผลลัพธ์ของกลยุทธ์ SEO ปรับแต่งกลยุทธ์ SEO อย่างต่อเนื่อง ให้เหมาะสมกับอัลกอริทึมของ Google และพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้
นอกจาก 3 ขั้นตอนหลักนี้แล้ว ยังมีขั้นตอนย่อย ๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ SEO และเป้าหมายของคุณ
SEO ทำงานยังไง
SEO ทำงานโดยปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตรงตามหลักเกณฑ์ของ Google เพื่อเพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ Google จะดึงข้อมูลเว็บไซต์ของคุณมาแสดงในผลการค้นหา อันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหา ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เนื้อหา โครงสร้างเว็บไซต์ ความเร็วเว็บไซต์ Backlink
ทำ SEO ยังไงให้ติด
ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวที่จะทำให้ SEO ติดอันดับ 1 บน Google แต่มีเทคนิคที่ช่วยเพิ่มโอกาส ดังนี้
สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ เนื้อหาที่ดี informative น่าสนใจ และตรงประเด็น ดึงดูดผู้ใช้ และทำให้ Google ประทับใจ
Optimize เว็บไซต์ ปรับแต่งเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย โครงสร้างเว็บไซต์ชัดเจน โหลดเร็ว
สร้าง Backlink หา Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ
ติดตามผลลัพธ์ วิเคราะห์ผลลัพธ์ของกลยุทธ์ SEO อย่างต่อเนื่อง และปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะสม
สิ่งสำคัญ SEO นั้นต้องใช้เวลาและความพยายาม อย่าย่อท้อ หากคุณทำอย่างสม่ำเสมอ เว็บไซต์ของคุณก็มีโอกาสติดอันดับบนหน้าแรกของ Google
SEO แปลว่าอะไร
SEO ย่อมาจาก “Search Engine Optimization” แปลว่า “การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนหน้าแรกของผลการค้นหา”
SEO สามารถทำเองได้ไหม
ใช่ SEO สามารถทำเองได้ มีข้อมูลและเครื่องมือมากมายบนอินเทอร์เน็ต ที่ช่วยให้คุณเรียนรู้และทำ SEO ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามการจ้าง SEO Agency อาจช่วยให้คุณประหยัดเวลา และได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว โดยเฉพาะหากคุณไม่มีเวลาหรือความรู้ด้าน SEO
SEO ย่อมาจาอะไร
SEO ย่อมาจาก “Search Engine Optimization” แปลว่า “การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนหน้าแรกของผลการค้นหา”